เดือนมีนาคมที่ผ่านมา Xiaomi เปิดตัว Redmi Note 9s ที่ถือเป็นมือถือในตลาดระดับกลาง แต่หลายสิ่งที่ให้ เรียกว่าจัดเต็มไม่แพ้รุ่นใหญ่ ผ่านมาหนึ่งเดือน แฟนของ Xiaomi ที่แอบสงสัยกันว่า “รุ่น Pro อยู่ไหน?” วันนี้รุ่นจัดสุดของตระกูล Note ก็เปิดตัวแล้วกับ Redmi Note 9 Pro แต่งานนี้ไม่ได้มาเครื่องเดียว มากับน้องเล็กในตระกูลด้วยกับ Redmi Note 9 ทั้งคู่มีรายละเอียดดังนี้
Redmi Note 9
น้องเล็กสุดของ Redmi Note 9 ที่ย่อส่วนจาก Note 9S กับ Note 9 Pro โดยมาในงานออกแบบธีม “Hot Shot” กับสามสีได้แก่ Forest Green / Polar White / (อีกสีคือ) ใช้หน้าจอ 6.53 นิ้ว Dot Display นำตัวอ่านลายนิ้วมือไปไว้ด้านหลังเครื่อง ใช้ CPU MediaTek Helio G85 ที่เคลมว่า ใข้เล่นเกมได้ดีกว่า Qualcomm Snapdragon 665 ถึง 21% ให้แบตเตอรี่ความจุ 5,020 mAh รองรับ FastCharge 33W กล้องถ่ายรูปหลัก ความละเอียด 48MP เลนส์มุมกว้าง 118 องศา เลนส์มาโคร และ Depth sensor โดยวีดีโอรองรับ Kaleidoscope พร้อมกล้องหน้า 13MP
มีให้เลือกสองรุ่นได้แก่ RAM 3GB ความจุ 64GB ราคา 199USD (ประมาณ 6,500 บาท) ส่วน RAM 4GB ความจุ 128GB ราคา 249USD (ประมาณ 8,100 บาท)
Redmi Note 9 Pro
ตัวเครื่องใช้งานออกแบบอิงกับ Redmi Note 9s แต่ที่ต่างไปคือ ใช้การตัดของสีเงากับด้าน มีให้เลือกสามสีได้แก่ Tropical Green, Interstellar Grey, Glacier White พร้อมตัวอ่านลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิด / ปิด เครื่องด้านข้าง ใช้หน้าจอ 6.67 นิ้ว Dot display ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาน้อยตามมาตรฐาน TUV กระจกหน้าและหลังใช้ Gorlila Glass 5 แบบติดฟิล์มกันรอยจากโรงงานมาให้เลย ตัวเครื่องใช้ Qualcomm Snapdragon 720G ใช้แกนมอเตอร์แบบใหม่ “Z-axia linear motor” ทำให้สั่นได้มีมิติมากขึ้น แบตเตอรี่ความจุ 5,020mAh พร้อมที่ชาร์จ 33W ชาร์จ 50% แรกใน 40 นาทีได้ โดยที่ชาร์จให้มาในกล่องขาย
กล้องถ่ายรูปยกสเปกหลักจาก Note 9s มา แต่เพิ่มเติมด้วย Cinimetic Portait ที่ได้ภาพหน้าชัดหลังเบลอสวยกว่า ถ่ายวีดีโอแบบ Kaleidoscope ได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง รวมถึงกล้องหน้าที่ถ่ายวีดีโอ Slo-motion ได้
มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ RAM 6GB ความจุ 64GB ราคา 269USD (ประมาณ 8,800 บาท) ส่วน RAM 6GB ความจุ 128GB ราคา 299USD (ประมาณ 9,700 บาท)
Mi Note 10 Lite
ด้วยการตอบรับ Mi Note 10 ที่ดีมาก เพื่อให้ทำตลาดได้กว้างขึ้น Mi Note 10 Lite จึงเกิดขึ้น ด้วยงานออกแบบ 3D Curved Edge โค้งลงทั้งหน้าและหลัง มีให้เลือกสามสีได้แก่ Nebula Purple / Glacier White / Midnight Black ใช้หน้าจอ 6.47 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ รองรับ HDR10 contrast 400000:1 อัตราส่วน 91.4% ใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 730G กล้อง 64MP (Sony IMX686 Sensor) กับเลนส์ Ultrawide 8MP กว้าง 120 องศา / กล้อง Depth 5MP / Macro 2MP และแฟลชช่วยถ่ายแบบคู่ ให้แบตเตอรี่ความจุ 5,260 mAh รองรับ FastCharge 30W
มีให้เลือกสองรุ่น ได้แก่ RAM 6GB ความจุ 64GB ราคา 349EUR (ประมาณ 12,300 บาท) ส่วน RAM 6GB ความจุ 128GB ราคา 399EUR (ประมาณ 14,000 บาท)
ท้ายสุดนี้ มีพัดลมมาฝากหนึ่งเครื่อง ดูน่าจะเป็นพระเอกในงานมากกว่ามือถือที่เปิดตัวไปกับ Mi Smart Standing Fan 1C พัดลมตั้งพื้นทรงวินเทจสวย ๆ แบบ 7 ใบพัด เปิดได้แรงสามระดับ ควบคุมพัดลมผ่าน Mi Home App หรือสั่งผ่าน Google Assitance ก็ได้ ราคาน่ารักที่ 39.9EUR (ประมาณ 1,400 บาท)
การวางจำหน่ายในไทยพร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ จะตามมาในเร็ว ๆ นี้แน่นอน