อีกไม่กี่อึดใจ Samsung Galaxy เตรียม Unpacked มือถือรุ่นใหม่เครื่องแรกประจำปี 2022 แล้ว ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ แต่ก่อนหน้าจะไปเจอกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ ผม Gadguan.com จะพาย้อนกลับไปเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ Galaxy รุ่นแรกถือกำเนิดบนโลกใบนี้ สิ่งหนึ่งที่เขาภาคภูมิใจอย่างมากก็คือเรื่องของ “กล้องสมาร์ตโฟน” ที่สามารถทำให้เราตื่นเต้นได้ทุกครั้งที่เปิดตัว ว่าแต่จะตื่นเต้นยังไงบ้าง เราไปอ่านกันเลยครับ
เปิดตำนานด้วย Samsung Galaxy รุ่นแรกเมื่อปี 2010 ที่ครั้งแรกผมเห็นเพื่อนใช้แล้วรู้สึกว่า Samsung รุ่นไหนทำไมมันดูแปลกๆ แล้วตั้งแต่วันนั้นก็เลยรู้จักกับ Samsung Galaxy S รุ่นแรกเป็นต้นมา นับเป็นมือถืออีกรุ่นในสมัยนั้นที่เท่มากๆ เพราะกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลในสมัยนั้น กล้องหน้า VGA ที่สามารถ Video Call ได้ กล้องวีดีโอถ่ายชัดคุณภาพ HD โหมดถ่ายภาพอีกมากมาย รวมไปถึงโหมด Shoot take a “Panorama” ถ่ายภาพมุมกว้างได้อีก นับว่าเป็นการเปิดมุมมองใหม่ของการถ่ายรูปจากกล้องมือถือ
อีกปีต่อมา Galaxy S2 ก็ได้เปิดตัว ที่สร้างความฮือฮามากๆ ในขณะนั้น โดยการทำการตลาดด้วย Porsche Boxster มา Wrap เป็นสีเขียวเหลืองเหมือนรถ Taxi และให้บริการรับส่งผู้โดยสารจริง เปรียบเหมือนกับโทรศัพท์มือถือคุณภาพสูง ในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ อีกจุดเด่นเรื่องหนึ่งคือเรื่องของกล้อง ที่มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล และฟีเจอร์สนุกๆ มากมาย อย่างการเปลี่ยนภาพถ่ายให้เป็นรูปวาดลายเส้น
ปี 2012 เป็นอีกปีที่ Samsung เริ่มพัฒนาเรื่องการออกแบบของ Galaxy S3 ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติมากขึ้น และแน่นอนว่าเรื่องกล้องก็ยังเป็นจุดเด่นเหมือนเดิม มีจุดเด่นคือ Burst Shot สามารถถ่ายภาพสูงสุด 20 ภาพภายใน 3.3 วินาที พร้อมโหมดเลือกภาพที่ดีที่สุด (Best Photo mode) และโหมดป้องกันการหน่วงระหว่างกดชัตเตอร์ (Zero Shutter Lag mode) ทำให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ปี 2013 ยุคที่กล้องโทรศัพท์มือถือเริ่มมีความละเอียดสูงมากกว่า 10 ล้านพิกเซล Samsung Galaxy S4 มีความละเอียดกล้องหลังอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล และยังมีฟีเจอร์สนุกๆ ที่เพิ่มความพิเศษให้กับรูปที่ถ่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Dual Shot ที่ให้ผู้ใช้สามารถใช้กล้อง 2 ตัว หน้า-หลัง ถ่ายภาพพร้อมกันเพื่อให้ปรากฏในเฟรมเดียว พร้อมฟีเจอร์ Sound & Shot ที่บันทึกเสียงเพื่อใช้เล่าเรื่องประกอบภาพได้ รวมถึง Drama Shot กับการให้ผู้ใช้ถ่ายภาพหลายภาพต่อเนื่องกันแล้วนำมารวมกันเป็นคอลเลคชันเรื่องราวได้ด้วย
ปี 2014 เรื่องกล้องบนโทรศัพท์มือถือยังเป็นจุดเด่นของ Samsung Galaxy S5 ที่มาพร้อมกับกล้องแบบ ISOCELL ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ลด Noise ลง ทำให้ภาพคมชัดมากขึ้นแม้ในที่มืด รวมไปถึงโหมด HDR ที่เพิ่มความสดใสของภาพ ทั้งที่แสงน้อยหรือภาพย้อนแสงได้อีกด้วย
ปี 2015 นอกจากดีไซน์จอโค้งและคุณภาพวัสดุที่โดดเด่นมากขึ้นของ Samsung Galaxy S6 กล้องหน้านี้ยังเพิ่มความละเอียดเป็น 5 ล้านพิกเซล พร้อม F1.9 เพื่อรูปเซลฟีที่สวยงามและคมชัด มาพร้อมกับฟีเจอร์ Quick Launch ที่สามารถเข้าโหมดกล้องได้ง่ายขึ้นด้วยการกดปุ่ม Home 2 ครั้งเท่านั้น
มาถึงปี 2016 เป็นอีกปีที่ Samsung ใส่ใจในรายละเอียดและคุณภาพของภาพถ่ายมากยิ่งขึ้น ใน Galaxy S7 ได้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ เซ็นเซอร์ภาพแบบพิกเซลคู่ (Dual pixel image censor) ที่ยกเทคโนโลยีมาจากกล้อง DSLR ระดับโปร เพื่อมอบความคมชัดของภาพถ่ายทั้งกลางวันและกลางคืน และยังมีแฟลชสำหรับกล้องหน้า เพื่อทำให้สามารถถ่ายรูปเซลฟี่ได้สวยทุกสภาพแสงอีกด้วย
ปี 2017 เป็นอีกปีที่ Samsung ได้ยกเครื่องการดีไซน์ครั้งใหญ่ กับ Galaxy S8 ที่ให้หน้าจอใหญ่เต็มตาขนาด 6.2 นิ้ว แทบจะเต็มพื้นที่ของตัวเครื่องโดยไม่ต้องพึ่งปุ่มโฮม และกล้องถ่ายภาพก็ได้ถูกพัฒนามากขึ้น โดยการใช้อัลกอริธึมมาช่วยประมวลผลของภาพถ่าย ยังมีโหมดสำหรับเลือกภาพที่ดีที่สุดของผู้ใช้งาน เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามที่สุด
ปี 2018 การถ่ายภาพในตอนกลางคืนของ Samsung Galaxy S9 ได้ถูกยกระดับขึ้นอย่างมาก ทั้งการที่ใช้เลนส์ F1.5 และ F2.4 ที่สามารถเก็บแสงสว่างได้มากที่สุดในมือถือสมาร์ทโฟนในขณะนั้น ทำให้ภาพถ่ายออกมาสวยงามแระเก็บรายละเอียดได้ดีมากยิ่งขึ้น และยังมีโหมด Super Slo-mo ที่ 960 เฟรมต่อวินาที และอีกฟังก์ชั่นหนึ่งคือ AR-Emoji ที่ใช้เทคโนโลยีกล้องและ AR ในการจับใบหน้าเพื่อนำมาสร้างเป็นร่าง Avatar เลียนแบบสีหน้าและท่าทางของผู้ใช้งานได้แบบแอนิเมชั่น
ปี 2019 เรื่องกล้องของ Samsung Galaxy S10 ก็ได้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ด้วย Super Steady Mode ที่ป้องกันการสั่นของวีดีโอที่มีการเคลื่อนไหวให้ได้ ทำให้ได้วีดีโอที่นิ่ง ไม่เวียนหัว ในส่วนของภาพถ่ายยังอัพเกรดมาเป็น HDR 10+ ที่เก็บสีสีนของรูปได้สมจริงมากยิ่งขึ้น และยังมีกล้อง Ultra Wide ที่เก็บองศาภาพได้สูงสุด 123 องศา อันเป็นองศาเดียวกันกับขอบเขตการมองเห็นของสายตามนุษย์นั่นเอง
ปี 2020 เป็นปีที่ Samsung ใส่สุดพลังกับเรื่องกล้องถ่ายภาพ ทั้งกล้องหลักที่ให้ความละเอียดสูงสุดถึง 108 ล้านพิกเซลบน Galaxy S20 Ultra และ 64 ล้านพิกเซลบน Galaxy S20 และ S20+ รวมไปถึงสามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดสูงสุด 8K และฟังก์ชั่น Space Zoom ซึ่งเป็นการเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง Hybrid Optic Zoom และ AI-powered digital zoom ที่สามารถซูมภาพได้ถึง 100 เท่าโดยที่ภาพยังคมชัด
และล่าสุด ปี 2021 กับ Galaxy S21 ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่สามารถถ่ายวีดีโอจากกล้องหลักและกล้องหน้าได้ภายในครั้งเดียว เอาใจคนที่ชอบถ่าย Vlog รวมถึง Director’s View ที่ช่วยให้ผู้ใช้เลือกมุมมองที่สมบูรณ์แบบที่สุดผ่านเลนส์กล้องทั้ง 3 เลนส์เพื่อเปรียบเทียบพร้อมกันในครั้งเดียว และเทคโนโลยี nona-binning ที่ให้ภาพสว่างสดใสแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ Samung พัฒนาและเป็นผู้นำในวงการกล้องสมาร์ทโฟนที่สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการในทุกๆ ปี และในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 22.00 น. ในงาน Samsung Galaxy Unpacked เตรียมพบกันกับสมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปที่จะทำให้การถ่ายภาพของทุกๆ คนดีที่ที่สุด ไม่เว้นแม้แต่ที่แสงน้อยหรือยามค่ำคืน สามารถรับชมได้ผ่านทาง https://www.samsung.com/th แล้วพบกันครับ
