ข่าวประชาสัมพันธ์

Schneider Electric ประเทศไทยฉลองครบรอบ 40 ปี ตอกย้ำนโยบาย “3Ds” รับการเปลี่ยนผ่านสู่ Thailand 4.0

Schneider Electric ประเทศไทยฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปีในการก่อตั้ง Schneider Electric ในประเทศไทย พร้อมประกาศเดินหน้าธุรกิจภายใต้นโยบาย “3Ds” รับกระแสในการก้าวเข้าสู่ Thailand 4.0 อย่างเต็มรูปแบบทั้งด้านพลังงาน ไอที อุตสาหกรรม อาคาร และโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของคนไทยในอนาคต

นายมาร์ค เพทิลิเยร์ ประธาน Schneider Electric ประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2561 นี้ Schneider จะปรับแผนการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับนโยบายที่เป็น Mega-trends ของโลกอย่าง “สมการ 3Ds” ซึ่งเป็นสมการที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานในทุกภาคส่วนไปตลอดกาล ซึ่งทั้งสามนโยบายมีดังต่อไปนี้

  • Decarbonization – ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานลม ตลอดจนพลังงานจาก Biomass ที่จะมีการนำมาใช้งานควบคู่กันมากขึ้นในอนาคต
  • Digitization – นำเทคโนโลยี Internet of Things และข้อมูลมหาศาล (Big Data) มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ พร้อมวางแผนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะในส่วนของระบบสาธารณูปโภคที่จะเปลี่ยนสภาพให้เป็น “Grid” มากขึ้น
  • Decentralization – พร้อมรับการขยายตัวของการบริโภคพลังงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่และ Prosumer ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยอุปกรณ์ประเภท Smart Home และเทคโนโลยีการจัดการพลังงานที่จะมีมากขึ้น

ที่ผ่านมา Schneider ได้พัฒนาเทคโนโลยี IoT อันเป็นหัวใจหลักของระบบโครงสร้างพื้นฐานในหลากหลายรูปแบบภายใต้ชื่อ “EcoStruxture” ซึ่งรองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบ หลากหลายผู้ผลิต และตอบโจทย์การทำงานในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม ซึ่ง EcoStruxture จะช่วยสื่อสาร ส่งผ่านข้อมูล ก่อให้เกิด Big Data ขนาดใหญ่ที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจในเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที ตลอดจน Developer หรือ System Analysis ก็สามารถนำ EcoStruxture และข้อมูลมหาศาลที่ได้ไปพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตอบโจทย์การใช้งานภายในองค์กรต่อไปได้

โดยปัจจุบันลูกค้าที่ใช้โซลูชัน EcoStruxture ในประเทศไทยมีอยู่ด้วยกันหลายภาคส่วน ดังต่อไปนี้

การไฟฟ้านครหลวง ได้นำโซลูชัน EcoStruxture Grid มาใช้ร่วมกับโครงการมหานครไร้สาย (การนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน) ซึ่งโซลูชัน EcoStruxture Grid จะช่วยในการบริหารโครงข่ายระบบไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำ สามารถตรวจวัดแรงดันการส่งไฟฟ้าให้สามารถส่งได้อย่างสม่ำเสมอ สามารถตรวจสอบอุปกรณ์หรือเส้นทางที่เสียหาย พร้อมสั่งซ่อมแซมชั่วคราวก่อนการเข้าพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด ในเครือเอสซีจี บริษัทได้นำโซลูชัน EcoStruxture Industry มาช่วยในการบริหารจัดการโรงงานไทยโพลิเอททีลีน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตพลาสติกใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศไทย ซึ่งโซลูชันนี้จะช่วยคอยรายงานการผลิต ปรับปรุงและจัดการสายการผลิตได้อย่างคล่องตัว

บริษัท เด็กซ์ตร้า แมนูแฟ็คเจอร์ริ่ง จำกัด ได้นำโซลูชัน EcoStruxture Machine มาปรับใช้ในการผลิตอุปกรณ์เชื่อมเหล็ก เพื่อรองรับในการให้บริการและการบำรุงรักษา เพราะลูกค้าของ Dextra ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย การนำเทคโนโลยีมาใช้ก็จะช่วยให้ Dextra สามารถตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ได้อย่างต่อเนื่องจากสำนักงานที่กรุงเทพมหานคร และสามารถรายงานให้บริษัทสาขาท้องที่เข้าไปบำรุงรักษาได้ทันทีเมื่อตรวจพบปัญหาของอุปกรณ์

ซุปเปอร์แน็ป ประเทศไทย ได้นำโซลูชัน EcoStruxture Data Center มาใช้ในการก่อสร้าง Data Center ขนาดใหญ่ที่สุดใน SEA ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ ECC จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับการเติบโตของปริมาณข้อมูลจำนวนมากที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยโซลูชัน Data Center จะช่วยรายงานสภาพอากาศภายในอาคาร ความต่อเนื่องของอุปกรณ์ และเมื่อตรวจพบอุปกรณ์เสียหาย ก็สามารถส่งข้อมูลให้ช่างบำรุงรักษาได้รับทราบเพื่อเข้าบำรุงรักษาอุปกรณ์ทันที

ทั้งหมดนี้ Schneider มุ่งหวังเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย และทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวเข้าสู่ Thailand 4.0 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ใช่แค่ Schneider แต่เหมารวมถึงประชาชนชาวไทยทุก ๆ คน

คณะแกดกวน #teamgadguan

อริญชย์ ชวะโนทัย (iBehemortHz)

เด็ก ป.โท ผู้สนใจในโลกดิจิทัลและสังคม และคอยเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงผ่านสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า "หน้าจอ" :)