ก้าวเข้าสู่ปีที่ 39 อย่างเต็มภาคภูมิแล้วสำหรับโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท หนึ่งในโรงพยาบาลในเครือ BDMS เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในโอกาสครบรอบปีที่ 39 ทั้งที โรงพยาบาลสมิติเวชเลยขอเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อร่วมด้วยช่วยกันผลักให้ผู้ป่วยไม่ต้องกลับมาโรงพยาบาลอีก ไม่ใช่เพราะไม่อยากหารายได้ แต่เพราะโรงพยาบาลไม่อยากให้คุณป่วยนั่นเอง แต่ถ้าคุณป่วย ประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งที่โรงพยาบาลกำลังจะนำเสนอในครั้งนี้ จะช่วยให้ชีวิตเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลังเลยล่ะ
เพราะสิ่งที่ผมกำลังพูดถึงอยู่คือ เลาจน์ครั้งแรกสำหรับลูกค้าโรงพยาบาลระดับ Top Priority ที่งานนี้ทางโรงพยาบาลได้จับมือร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ในการออกแบบเลาจน์นี้ร่วมกัน กับ “THE FIRST”
ประสบการณ์ใหม่สำหรับลูกค้ากระเป๋าหนัก
สิ่งที่โรงพยาบาลสมิติเวชภูมิใจนำเสนอในครั้งนี้ คือ “THE FIRST” เลาจน์แห่งใหม่กลางโรงพยาบาลซึ่งปรับปรุงมาจากสวนหย่อมเดิม โดยเลาจน์แห่งนี้จะได้รับการดูแลและบริหารเป็นอย่างดีจากทางโรงพยาบาล เลาจน์แห่งนี้จะเปิดให้ลูกค้าระดับ Top Priority ของทางโรงพยาบาลได้ใช้บริการเป็นหลัก และตามด้วยกลุ่มลูกค้าระดับสูงสุดของธนาคารไทยพาณิชย์อย่าง SCB Private Banking และ SCB First ที่สามารถเข้าใช้บริการได้
เลาจน์แห่งนี้จะให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ของการรอคอย จากเดิมที่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่บริเวณที่โรงพยาบาลกำหนด ก็เปลี่ยนมาเป็นการนั่งชิลล์อยู่ในเลาจน์แห่งนี้ พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดคลาสสิกในรูปแบบ The Glass House กลางสวนสุดร่มรื่น กับอาหาร และขนมพร้อมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจาก Divana ตลอดการใช้บริการ และเมื่อถึงคิวบริการ พยาบาลก็จะเดินมาเชิญพร้อมนำทางไปยังจุดบริการอย่างเป็นกันเอง
แต่สิ่งที่จะแตกต่างออกไป คือลูกค้าบางส่วนที่เป็นนักลงทุนอาจจะกลุ้มใจเรื่องพอร์ตของตัวเองขณะมานั่งติดแหง่กอยู่ที่โรงพยาบาลว่าพอร์ตจะเขียวหรือพอร์ตจะแดง เลาจน์แห่งนี้เลยขอนำเสนออีกหนึ่งบริการจาก SCB นั่นคือ SCB Invesment Center พื้นที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก SCB ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ SCB ขยายบริการแห่งนี้มายังโรงพยาบาลเป็นแห่งแรก เพื่อให้ลูกค้าทั้งของโรงพยาบาลและ SCB ได้รับประสบการณ์ที่ดี และคำแนะนำที่ดีจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากำลังมาหาแพทย์รักษาโรคภัยไข้เจ็บก็ตาม
แม้ลูกค้ากระเป๋าไม่หนัก เราก็ยังมีสิ่งดีๆ มอบให้
อาจจะเห็นว่า THE FIRST คงเป็นสิทธิ์สำหรับลูกค้ากระเป๋าหนักของทั้งโรงพยาบาลกับ SCB ก็จริง และอาจจะน้อยใจเล็กๆ ว่าโรงพยาบาลคงไม่ได้สนใจลูกค้าระดับล่างหรอกมั้ง แต่เปล่าเลย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีอย่างเท่าเทียมกันทางโรงพยาบาลจึงจับมือร่วมกับ Digital Venture บริษัทในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชันตัวใหม่ “Samitivej Plus” แอปพลิเคชันสำหรับรับบริการภายในโรงพยาบาลนั่นเอง
แอปพลิเคชันตัวนี้จะเปรียบเสมือนเป็น Journey Map ในมือของคุณ คุณจะสามารถทำได้ทั้งการทำนัดกับหมายแพทย์ที่ต้องการ และเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เพียงแจ้งการรับบริการ แอปฯ ก็จะดึงข้อมูลการรอคิวและเข้ารับบริการมาแสดงพร้อมแสดงเวลาการรับบริการแบบคร่าว ๆ เอาไว้ให้ลูกค้าได้เห็นผ่านแอปฯ ทันที เบื้องต้นแอปฯ จะใช้งานได้กับโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และโรงพยาบาลเด็กสมิติเวชเท่านั้น และกำลังจะปรับปรุงให้สามารถใช้งานร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวชทั้ง 7 แห่ง และโรงพยาบาลบีเอ็นเอชได้ในอนาคต
นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังได้ร่วมมือกับ SCB ในการพัฒนาระบบการรับชำระด้วย QR Code ในชื่อ Samitivej Fast Pay เมื่อลูกค้ารับบริการใกล้เสร็จ เพียงกดปุ่ม Payment จากในแอปฯ Samitivej Plus ระบบจะให้ลูกค้าติดต่อฝ่ายการเงินเพื่อรับรายการ เมื่อรับรายการแล้วเพียงแค่สแกน QR Code ที่ปรากฎ คุณก็สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลผ่านแอปฯ ของแต่ละธนาคารได้ทันที ไม่ต้องควักเงินสดออกมาแม้แต่น้อย
และพิเศษ รับส่วนลด 10% ทันที เพียงชำระค่ารักษาพยาบาลและค่ายาผ่านช่องทาง Samitivej Fast Pay ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และโรงพยาบาลเด็กสมิติเวชเท่านั้น
ทั้งหมด เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่แก่ผู้ป่วยด้วยใจโดยเฉพาะ
นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑูรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการมอบประสบการณ์ในการรับบริการรูปแบบใหม่ให้ลูกค้าโรงพยาบาลสมิติเวชได้รับประสบการณ์ในการรับบริการที่ดีที่สุด ดั่งปรัชญาที่โรงพยาบาลถือมาตลอดว่า “ดูแลคนไข้ด้วยใจ” การเปิดตัวเลาจน์และแอปพลิเคชันก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการที่โรงพยาบาลด้วยการยกระดับคุณภาพและการดูแลผู้มาใช้บริการที่โรงพยาบาลด้วยการมอบประสบการณ์ใหม่เพื่อดึงดูดใจลูกค้าเอาไว้ให้ได้มากที่สุดตลอด 24 ชั่วโมง
