AIS ประกาศศักดาความล้ำหน้าไปอีกขั้น กับการโชว์เทคโนโลยี 5G ครั้งใหม่ นำทัพด้วยความเร็วเหนือระดับที่ 18 Gbps รวมถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ใช้งานได้จริงบน 5G ทั้ง Connected Drone, IoT และ Cloud Entertainment ทุกรูปแบบ รวมถึงศึกษานำเอาเทคโนโลยี Multipath TCP หรือเทคโนโลยีของ Next G ในปัจจุบัน มาทำจริงบน 5G ก่อกำเนิดเป็น Next G+ เครือข่ายแห่งอนาคตด้วยความเร็วเหนือระดับ สูงสุดที่ 19 Gbps
นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้างานฝ่ายปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิค AIS กล่าวว่า การทดสอบ 5G Episode 2 ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการทดสอบ 5G Episode 1 ครั้งที่ผ่านมา แนวคิดในการทดสอบครั้งนี้จึงเป็นการทดสอบในขั้นกว่า และ Beyond มากขึ้น โดย AIS ตั้งใจนำเอาเทคโนโลยีและกรณีศึกษาที่มีอยู่ มาปรับใช้งานกับเทคโนโลยี 5G ในทุกรูปแบบ เพื่อที่จะได้เห็นผลอย่างชัดเจนว่า เมื่อ 5G มาถึงจริง ๆ AIS จะสร้างความแตกต่างจากผู้เล่นรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม และสร้าง More Value ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างไร และเพื่อเป็นการยืนยันว่า AIS จะไม่หยุดยั้งที่จะสรรหาและพัฒนารูปแบบการให้บริการ 5G แบบใหม่ AIS จะดำเนินการทดสอบ 5G อย่างต่อเนื่องในโครงการ 5G Episode 3 ในเร็ว ๆ นี้
สำหรับการทดสอบ 5G Episode 2 จะมีแนวคิดหลักในการทดสอบทั้งหมด 5 หัวข้อ ดังต่อไปนี้
5G Super Speed ร่วมพิสูจน์อีกขั้นของความเร็วที่เหนือกว่า กับความเร็วสูงสุดบนเทคโนโลยี 5G ที่เร็วและแรงสูงสุดถึง 18.5 Gbps พร้อมทั้งร่วมพิสูจน์เทคโนโลยี Multipath TCP ที่เป็นการนำเอา Wi-Fi มาผสานร่างรวมกับ 5G เป็นครั้งแรกของโลก ก่อกำเนิดเป็นเครือข่าย Next G รูปแบบใหม่ที่เร็วสุด แรงแบบสุด ๆ ถึง 19 Gbps อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Next G+ ก็เป็นได้
5G Connected Drone ครั้งแรกของการชูเทคโนโลยีการบังคับโดรนขนส่งระยะไกลที่สามารถใส่ซิมได้บนเทคโนโลยี 5G แบบไม่ต้องพึ่งการใช้งานคลื่นที่เป็น Unlicensed Band อีกต่อไป อีกทั้งสามารถสตรีมภาพและวิดีโอความละเอียดสูงจากบนโดรนกลับมาที่ผู้ใช้ผ่านเครือข่าย 5G ได้ทันที
5G Cloud Virtual and Augmented Reality ครั้งแรกกับที่สุดของความบันเทิงด้วยเทคโนโลยี VR และ AR ที่ทำงานและประมวลผลอยู่บน Cloud และส่งผลตอบกลับมายังผู้ใช้ผ่าน 5G นี่จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าเมื่อ 5G เกิดขึ้นจริง ผู้ใช้จะสามารถใช้ VR และ AR บน Cloud ผ่านเทคโนโลยี 5G ได้อย่างไร
5G Wireless to the Home ครั้งแรกกับการโชว์เทคโนโลยีบรอดแบนด์ไร้สายผ่าน 5G (5G WTTx) บนคลื่น 5G mmWave ที่จะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเสริมบริการ Fixed Broadband ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับพื้นที่ที่ไม่สามารถลากสายได้ตามปกติ เช่นพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก เช่น เกาะ หุบเขา หรือชุมชนบริเวณขอบชายแดนเป็นต้น
5G Internet of Things ครั้งแรกกับการโชว์เทคโนโลยีแห่งอนาคตของ IoT ผ่านเทคโนโลยี 5G V2X (Vehicle to Everything) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างยานยนต์กับสิ่งต่าง ๆ ซึ่งพื้นฐานจะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน เพิ่มประสิทธิภาพในการจราจร และช่วยประหยัดพลังงานด้วยคำแนะนำในการขับขี่จากระบบเป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยี 5G V2X นี้ ยังจะเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่จะนำไปสู่การพัฒนา Automated Driving Car หรือรถยนต์ไร้คนขับในอนาคตอีกด้วย
AIS พร้อมแล้วที่จะโชว์เทคโนโลยีทั้งหมดนี้ภายในงาน AIS 5G 1st Live in Thailand “Episode 2” ตั้งแต่วันนี้ – 15 มกราคม 2562 ที่ AIS D.C. ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรี่ยม เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด