ข่าวประชาสัมพันธ์

AIS โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 2562 เติบโตและทำกำไรสูงสุดในกลุ่มผู้ให้บริการโทรคมนาคม

AIS ประกาศผลการดำเนินการของกลุ่มบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2562 พบว่าผลการดำเนินการเติบโตสูงสุดในหมวดหมู่ธุรกิจโทรคมนาคม ด้วยรายได้รวม 133,969 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6.9% ของช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และคิดเป็นกำไรสุทธิ 24,019 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5.1% ของช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเช่นกัน ทั้งหมดเป็นผลจากอัตราการเติบโตของลูกค้าแบบต่อเนื่อง ทั้งกลุ่ม Mobile และ Fibre และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ทั้งด้านรายได้ และจำนวนลูกค้าสูงสุด

สำหรับภาพรวมแยกรายบริการ กลุ่ม Mobile รายได้รวมอยู่ที่ 97,346 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีปัจจัยหลักจากการที่มีผู้ใช้บริการรายใหม่เข้ามามากขึ้น ลูกค้า 4G มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 10.1 GB ต่อเดือนในปีก่อน เป็น 12.1 GB ต่อเดือน

ปัจจัยส่วนใหญ่ที่ทำให้รายได้ของธุรกิจ Mobile เติบโตขึ้น เกิดขึ้นจากการปรับอัตราค่าบริการและค่าบริการรายเดือนของระบบรายเดือน (Postpaid) ในแต่ละแพ็คเกจให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากขึ้น มีแพ็คเกจรูปแบบใหม่ให้เลือกใช้งานมากขึ้น เช่น Next G MaxSpeed, Next G Flexi Speed หรือ Next G eSport เป็นต้น ประกอบกับกลุ่มระบบเติมเงิน (Prepaid) มีอัตราการแข่งขันที่สูงมากขึ้น ผู้ให้บริการรายอื่น ๆ มีการออกแพ็คเกจขนาดเล็กเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน AIS จึงต้องปรับตัวตามด้วยการออกแพ็คเกจขนาดเล็กรูปแบบเดียวเดียวกัน โดยให้ปริมาณดาต้าที่เยอะกว่าคู่แข่ง เพื่อรักษาส่วนแบ่งลูกค้าและฐานลูกค้าคุณภาพเอาไว้อย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นจึงทำให้ค่าบริการเฉลี่ย (Average Revenue Per User: ARPU) อยู่ที่ 263 บาท คิดเป็น 569 บาท สำหรับระบบ Postpaid และ 179 บาท สำหรับระบบ Prepaid ถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับธุรกิจ Fibre รายได้รวมอยู่ที่ 4,143 ล้านบาท เติบโตสูงสุดในกลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ 29% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และสำหรับ AIS Fibre เติบโตสูงสุดทั้งในแง่รายได้และจำนวนผู้ใช้บริการ โดยมีผู้ใช้บริการใหม่ในรอบ 9 เดือนแรกที่ 206,500 ราย เฉพาะในไตรมาส 3 มีลูกค้าใหม่ 81,600 ราย อันเป็นยอดเติบโตสูงสุดในรอบ 11 ไตรมาสที่ผ่านมา

ปัจจุบัน AIS Fibre ยังคงรักษามาตรฐานการให้บริการ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของช่องทางการให้บริการที่มากขึ้น ทั้งการพัฒนา AIS Fibre Connect ภายใน AIS Line Official Account, Website www.myaisfibre.com และการรวม Call Center ด้วยการใช้ AIS Call Center 1175 และ Serenade Call Center 1148 เพียงช่องทางเดียว  และตั้งเป้ายอดลูกค้าสูงสุดที่ 1 ล้านราย ภายในสิ้นไตรมาสที่ 4/2562 จากการนำเสนอแพ็คเกจคอนเวอร์เจนซ์ (FMC) เพื่อดูดลูกค้า AIS Mobile ที่มีกำลังจ่ายสูง (High-Value) ให้เข้ามาสมัครใช้บริการมากขึ้น

ทั้งนี้ AIS ยังคงตอกย้ำมาตรฐานการให้บริการภายใต้แนวคิด “อุ่นใจ…ได้มากกว่า” ใน 4 ด้านที่สำคัญ ได้แก่

  1. พัฒนาเครือข่ายให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมรองรับเทคโนโลยี 5G ในอนาคต ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี NEXT G+ ที่ต่อยอดจาก NEXT G เดิม ทำให้สามารถขับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่มากกว่าความเร็วพื้นฐานของ 5G ได้สูงสุดถึง 2 Gbps บนมือถือ 5G ที่รองรับ พร้อมทั้งขยายโครงข่ายด้วยเทคโนโลยี Massive MIMO และพัฒนาโครงข่ายให้มีค่าความหน่วงเวลา (Latency) ที่ต่ำที่สุดในผู้ให้บริการ เพื่อเป็นการวางรากฐานของ AIS 5G ที่จะดำเนินการต่อไป
  2. ยกระดับสินค้าและบริการที่ดีกว่า เช่น การผนวกความร่วมมือระหว่าง AIS eSports และ Facebook Gaming ให้ลูกค้า AIS ดู Facebook Gaming ได้ฟรี โดยไม่เสียค่าอินเทอร์เน็ต และการเข้าสู่ธุรกิจใหม่อย่าง AIS Insurance Service บริการประกันภัยออนไลน์ ที่ช่วยให้คนไทยเข้าถึงบริการประกันภัยได้ง่ายขึ้น
  3. สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อลูกค้าทุกระดับ ทุกเจนเนเรชัน กับการเปิดร้าน AIS Digit ALL ร้าน Unmanned Store แห่งแรกในประเทศไทย รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการ My AIS ให้ลูกค้าทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายและไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส
  4. มุ่งหน้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี และภายใต้กรอบ Mission Green 2020 ด้วยการผลักดันแนวคิด “ถ้าเราทุกคน คือเครือข่าย” ร่วมกับโครงการ “อุ่นใจ Cyber” เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางออนไลน์ ตลอดจนการพัฒนา DQ อย่างต่อเนื่อง สร้างระบบป้องกันเนื้อหาอันตรายบนโลกออนไลน์ AIS Secure Net และเป็นตัวกลางในการรับกำจัดขยะอิเลคทรอนิกส์ ผ่านโครงการ AIS E-Waste ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำเป็นต้น

ในปีนี้ นอกจากการดำเนินการที่สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ AIS อย่างต่อเนื่อง AIS ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ในกลุ่มดัชนีโลก (DJSI World Index) และดัชนีตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Market Index) ประจำปี 2562 รวมถึง รางวัลบริษัทยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชีย ในกลุ่มโทรคมนาคม ต่อเนื่องเป็นปีที่ จาก Asiamoney Awards และเป็น แบรนด์โทรคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก (World’s Strongest Telecoms Brand) โดย Brand Finance ทั้งหมดช่วยสะท้อนภาพวิสัยทัศน์ และนโยบายในการดำเนินการของ AIS ได้เป็นอย่างดี

คณะแกดกวน #teamgadguan

อริญชย์ ชวะโนทัย (iBehemortHz)

เด็ก ป.โท ผู้สนใจในโลกดิจิทัลและสังคม และคอยเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงผ่านสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า "หน้าจอ" :)