ลองแล้วเล่า

ลอง(นิดหน่อย)แล้วเล่า Huawei Y6p / Y5p / MatePad / MatePad T8 “วันดีของรุ่นเล็กที่เติมเต็มคุณภาพชีวิตได้”

ศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม

เป็นวันแรกในรอบเกือบสามเดือน ที่ได้ไปงานแบบเป็นทางการ ไม่ใช่งานแถลงข่าวผ่าน Live ในช่องทางต่าง ๆ ผมเดินทางไปงานด้วยรถไฟฟ้า ในสภาพที่โลกไม่เหมือนเดิมจากสิ่งที่มองไม่เห็น อันเป็นผลงานของสิ่งที่มองไม่เห็นที่ชื​ COVID-19 ใบหน้าของผมที่ต้องสวมหน้ากาก ทุกสิ่งที่ต้องเว้นระยะห่าง แบบบางทีก็ไม่เหลือพื้นที่ให้เว้นระยะ นอกจากเว้นแบบเป็นพิธีให้รู้ว่า ได้เว้นแล้วนะ และท้ายสุดคือ ความระแวงไปหมดของผมเวลาใช้มือเปล่าจับอะไรต่าง ๆ ที่คิดต่อแค่ว่า “อย่าเอาไปจับหน้า ขยี้ตา เข้าปาก” และวิ่งหาก็อกน้ำพร้อมสบู่เพื่อล้างมือให้ชัวร์ ไม่เว้นกระทั่งงานวันนี้ ที่เป็นมิติใหม่ด้วย ไม่ว่าจะการจำกัดจำนวนผู้เข้างาน ที่จัดเป็นรอบตามสะดวก ไปจนถึงการใส่ถุงมือยางแบบที่หมอ พยาบาล ใช้กัน เพื่อให้การจับเครื่องที่มาเขียนให้อ่านกันนี้ ปลอดภัยกับทุกฝ่าย นี่แหละครับ “New Normal” ที่ได้แต่หวังว่า บางอย่างจะไม่ได้อยู่กันถาวรต่อไปนะครับ

เข้าเรื่องดีกว่าครับ การไปเจอ Huawei เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นการแนะนำสินค้าหลัก ๆ หลายชิ้น…นับก่อนนะครับ โอเค 6 ชิ้น ครับ โดยสองชิ้นเป็น Notebook ในตระกูล Matebook (จิ้มไปอ่านกันได้ที่นี่) ส่วนที่ผมจะเล่านี้ เป็น Tablet สองรุ่น กับ Smartphone 2 รุ่น ดังนี้

Huawei MatePad กับ MatePad T8

ปกติ เราจะคุ้นชื่อของ Tablet จาก Huawei ในชื่อ MediaPad แต่การใช้ชื่อ MatePad ถือเป็นชื่อที่ดี จำง่าย ยกระดับสินค้าได้ดีมาก มาที่รุ่นแรกกับ MatePad ที่ถ้าไม่บอกว่านี่คือของใหม่ วางไว้เฉย ๆ แล้วไม่ใส่ใจ จะคิดว่าเป็น MatePad Pro ที่ได้ลองไปพร้อมกับ Mate XS เมื่อเกือบสามเดือนที่แล้วเอาได้ แต่มันไม่ใช่ มันเป็นรุ่นย่อมฯ ของ MatePad Pro ที่ การจัดวางรายละเอียดหลัก ๆ ของเครื่อง แทบจะเรียกว่าไม่ต่างกันกับ MatePad Pro เลย ยังยืนพื้นความแน่นหนาด้วยวัสดุโลหะ แต่ลดรายละเอียดบางจุดลงไปเล็กน้อย เพื่อให้ MatePad Pro ดูดีกว่า สเปกหลักหน้าจอ 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000×1200 แบบ IPS ที่สว่างขึ้นให้ผมมองเห็น เป็นหน้าจอ Tablet ที่ดูดีระดับมาตราฐานของ Tablet ที่ไม่ได้ราคาเบามาก แต่ก็ไม่ได้สูงจนเท่ารุ่นท็อป ไม่ขี้เหร่เลยในการมองดูทุกสิ่งในหน้าจอ ไปจนถึงการเปิดทีวีช่องเพื่อการศึกษาในเวลาที่กระแสในเน็ตฯ แซวถึงช่องการศึกษาที่ติดขัดไปหน่อย มองดูคนสอนที่อยู่ในจอแล้ว ให้อารมณ์ว่าซือไปแล้วได้ทีวีเครื่องย่อม ๆ ให้เด็กนั่งเรียน โดยมีผู้ปกครองดูอยู่ข้างหลังเพื่ออัพเดทว่าตอนนี้เด็กยุคนี้เค้าเรียนกันไปถึงไหนแล้ว ในขณะที่ลำโพงของเครื่อง เป็นจุดที่ไม่ย่ิงย่อนไปกว่า MatePad Pro นั่นคือความดัง กังวาน ครบในรายละเอียดเสียงที่ได้ เป็นลำโพง Tablet รุ่นหนึ่งที่ได้ฟังแค่ 10 วินาทีแรก ก็ประทับใจมาถึงตอนที่พิมพ์อยู่นี่ละ

กลับมาที่การตอบสนองของเครื่องหน่อย ตัวเครื่องใช้ Kirin 810 กับ Android ที่ใช้ HMS ที่หน้าตา EMUI โดยรวม ให้อารมณ์ไม่ต้องปรับตัวมาก ถ้าเคยใช้ Smartphone ของ Huawei เพิ่มเติมคือ ปัด แตะ พิมพ์ ผ่านหน้าจอ ด้วยความเร็วตอบสนองที่ถือว่า ไม่ได้เป็น Tablet ราคาเบา ๆ ดูหน่วง ๆ แน่นอน แต่เป็น Tablet รุ่นน้องจากรุ่น Pro ที่ดีไม่แพ้รุ่น Pro ได้อยู่ รองรับ M Pencil ด้วย แต่แอบทำผมขมวดคิ้วอยู่ในใจ ไม่แสดงออกผ่านสีหน้า เมื่อเห็นวิธีการเชื่อมต่อ ชาร์จแบตฯ ของปากกา ที่ต้องใช้สาย USB-C ต่อก้บเครื่อง แล้วเอาปากกาแตะกับสายเชื่อมต่อเฉพาะ เพื่อให้ปากกากับเครื่องทำงานร่วมกันได้ เพราะ MatePad ไม่มีแถบแม่เหล็กสำหรับเอาปากกาไปแปะเครื่องตรง ๆ แบบรุ่น Pro ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่า ด้วยยุคนี้แล้ว สายเส้นนี้คือจุดอ่อนของการทำหายแล้วงานเข้าของคนซื้อได้ รวมถึงต้องเก็บปากกาให้ดี ๆ เพราะไปกับเครื่องด้วยกันไม่ได้ ฉะนั้นแล้ว ถ้าใช้ปากกากับ MatePad ขอให้แน่ใจว่า ได้เชื่อมต่อ ชาร์จแบตเตอรี่ให้พอใช้ก่อนออกจากบ้านไป เพื่อให้สายชาร์จ+เชื่อมต่อปากกาเส้นนี้ ไม่เผลอหลงลืมนอกบ้าน แล้วจะเป็นปัญหากันไปใหญ่ แต่พอได้ลองปากกาลากเส้นลงกับ MatePad แล้ว ก็พอให้อภัยได้ว่า เครื่องกับปากกา ทำงานร่วมกันได้ดีมาก ถ้าไม่สังเกตแบบจับผิดจริง ๆ จะไม่รู้เลยว่า เส้นที่ลากบนจอ แอบหน่วงกว่าบน MatePad Pro เล็กน้อย ซึ่งแทบไม่ใช่ประเด็นที่จะไปตัดคะแนนมันเลย

เมื่อได้ลอง(นิดหน่อย)แล้วมาเล่าให้ฟังตรงนี้ มันคือ MatePad Pro ฉบับงบจำกัด เป็นการใช้เงินที่จำกัด แต่ได้อะไรหลัก ๆ ที่ MatePad Pro ทำได้ดี ซึ่งผมสนับสนุนมากว่าถ้าจะซื้อ MatePad Pro แต่หักมูลค่าส่วนที่เกี่ยวกับ รูป รส ลงไป สวยไม่เท่า เซ็กซี่ไม่เท่า แต่ไปด้วยกันแล้ว ทำผลงานออกมาแล้วอาจบรรลุผลไม่ต่างกันได้ ส่วนต่างที่ประหยัดลงไป ก็ดูน่าสนใจชึ้นจริง ๆ นะ

สำหรับเครื่องต่อไป คือรุ่นเล็กที่ผมรู้สึกว่า ผมไม่เห็น Tablet จอเล็กมานานขนาดไหนแล้ว เพราะที่เห็นล่าสุด ก็คงมีแต่ของตลาดนัดอารมณ์ ใช้ได้มากกว่า 6 เดือนแล้วยังอยู่ดี ก็เรียกว่าทำบุญก่อนซื้อมาดีแล้ว ถ้า Tablet ราคาเบา ใช้งานได้อย่างน่าเชื่อถือว่าสินค้าโนเนม ขอเชิญพบกับ MatePad T8 น้องเล็กสุดของ Tablet ที่ Huawei ขายตอนนี้ ด้วยหน้าจอ 8 นิ้ว ขนาดเข้ามือพอดี ตัวเครื่องประกอบมาเรียบร้อยดี รูป รส ที่สัมผัสได้จากภายนอก ดูเป็นของที่ทำมาเพื่อใช้งาน อาจไม่ได้สวยงามดูเด่นไปนัก แต่ความเรียบร้อย กับน้ำหนักตอนอยู่ในมือ ทำให้ผมไม่คิดมากเรื่องความสวยงามทางกายภาพ เพราะกับราคาที่จ่าย ก็ถือว่าดูดีกว่าสินค้าโนเนมมาก ๆ แล้ว แสงหน้าจอที่ติดให้สองตาผมได้มองเห็น เป็นหน้าจอ 8 นิ้ว IPS ความละเอียด 800×1280 ที่ไม่ค่อยคมเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ดูแย่ที่จะใช้งาน เพราะเปิดช่องการศึกษาพร้อมกับ MatePad แล้ว ดูคุณครูที่สอนได้คมชัด สีสันที่ดูในไอค่อนหน้าจอเหมือนจืดไป แต่พอดูห้องเรียนออนไลน์อยู่ ก็เพียงพอสำหรับรับชมวีดีโอแบบนี้ โดยที่การตอบสนองนิ้วเมื่อปัด แตะ พิมพ์ ถ้าไม่ใช่คนใช้แต่ของเร็ว ๆ มาตลอดชีวิต ความเร็วของเครื่องที่ให้ Mediatek MT8768 กับ RAM 2GB ก็พอสำหรับการเป็น Tablet เพื่อการเล่นเว็บ เล่นเกมเบา ๆ และดูวีดีโอต่าง ๆ ได้ทั้งวันแบบไม่ทรมานเครื่องแน่นอน ยิ่งในเวลาที่ผมคิดออกว่า Tablet 8 นิ้ว ที่จะซื้อ ก็คือ iPad mini ซึ่งก็สูงแบบคนละตลาดไปเลย นี่คือตัวแทน 8 นิ้ว ที่เลือกมาใช้งานแล้วไว้ใจได้ในแง่คุณภาพต่อเงินที่จ่ายอยู่ ถึงจะเป็น Android แบบ HMS ก็เถอะ

เอาเป็นว่า เครื่องเล็กได้ใจผมไปมากกว่าเครื่องใหญ่ เพราะผมไม่ได้เจอ Android Tablet เครื่องเล็ก ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า สิ่งที่ได้สัมผัสต่อมูลค่าที่จ่าย สมเหตุสมผลแบบนี้มาสักพักแล้วละครับ และมีเซอร์ไพรส์ให้จับนอกเหนือจดหมายเชิญฯ กับมือถือรุ่นเล็กสองรุ่นในตระกูล Y ได้แก่

Huawei Y6p / Y5p

หลังจาก Y7p ออกมาได้สักพักแล้ว เหมือนว่าราคา 4,990 บาท จะแรงไปหน่อย เหมือนจะเหมาะเจาะกับข่าวคุณยายซื้อ​​ Smartphone ให้หลาน เพื่อใช้เรียนออนไลน์ในเวลานี้ มือถือรุ่นย่อมฯ กว่า Y7p ก็ตามมา โดย Y6p จะคล้าย Y7p แต่หน้าจอใช้ทรงติ่งแบบหยดน้ำ มากับสเปคที่บางจุดแอบทำ Y7p มองค้อนได้เล็กน้อย ขอเล่าจุดที่ย่อมฯ กว่า Y7p หลัก ๆ อย่าง CPU Mediatek MT6762R กล้องสามตัว ที่ความละเอียดหลักเหลือ 13MP เครื่องหนักกว่าประมาณ 10 กรัม แต่สิ่งที่ทำให้ Y7p มีค้อนเล็กน้อย คือแบตเตอรี่ที่ให้มากกว่าถึง 5,000 mAh รองรับการชาร์จไฟกลับผ่านสาย และได้​ Android 10 แบบ HMS ตั้งแต่แกะกล่อง เมื่อลองจับถือคร่าว ๆ ต้องบอกว่า แทบจะเหมือน Y7p จนไม่ควรซื้อสีดำมาใช้ เพราะมองผ่าน ๆ อาจแยกกันไม่ออก แนะนำให้เล่นสีม่วง Phanthom Purple ที่ไม่มีโชว์ในงาน แต่เห็นภาพแล้ว น่าจะดึงดูดสายตาได้ดีแน่นอน ถือเครื่องแล้ว ก็ได้รู้สึกหนักกว่า Y7p แบบที่จับสัมผัสได้ว่ามันหนักขึ้นตามสเปกในกระดาษนะ ในเรื่องความเร็ว การตอบสนองเบื้องต้น ก็เหมือนถอดจาก​ Y7p มาหมด จนถ้าไม่อ่านสเปก ก็เหมือนใช้ Y7p อยู่ เอาเป็นว่า การประหยัดเงิน 1,000 บาท จาก Y7p แต่ได้อะไรหลัก ๆ เหมือนกัน ก็ไม่เลวเลยทีเดียว

มาที่น้องเล็กสุดของตระกูล Y กับ Y5p ที่ย่อลงจาก Y6p แบบชัดเจน แต่หน้าตาเครื่องตอนเห็นแว็บแรก การจัดการวางกล้องหลัง ชวนให้คิดถึงมือถือรุ่นท็อปค่ายหนึ่งของสหรัฐฯ เมื่อเข้ามาอยู่ในมือ เมื่อคิดถึงราคาไม่ถึง 3 พัน ก็พอยิ้มได้ว่า งานประกอบ ความแน่นหนารวม ๆ ไม่ได้ลดลงจาก Y6p / Y7p เตรื่องสีดำที่นำมาโชว์ ก็ดูดีไม่แพ้รุ่นพี่ มีเพียงน้ำหนักเครื่องรวม ๆ ที่หวิวมือไปหน่อย หน้าจอของเครื่องขนาดเล็กสุดในกลุ่มที่ 5.45 นิ้ว พร้อมกับสีหน้าจอ ความคม ที่ดูไม่เท่ากับพี่ Y6p / Y7p แต่ได้เรื่องความเข้ามือที่ถนัดมือมากกว่า เหมาะมากับคนที่เน้นมือถือแบบมือเดียวเอาอยู่ ถึงเครื่องจะ RAM 2GB ปัดแล้วเห็นเลยว่า ไม่ได้คล่องแคล่วเท่าพวก RAM 4GB ขึ้นไป แต่ก็พอสำหรับการเป็นมือถือเพื่อ “ใช้งาน” จริง ๆ อารมณ์ โทร แชท หรือใช้อะไรไม่เกินสอง สาม อย่าง ในแต่ละวัน ด้วยเวลาที่กำลังจะหมดลง นี่เครื่องสุดท้ายของวันที่ได้เล่น ถ้านำราคา 2,990 บาท มาตั้ง แล้วไม่อยากมีพันธะกับเครือข่ายอะไรเลย ก็ถือว่าเป็นมือถือเพื่อ “ใช้งาน” ย้ำว่า “ใช้งาน” จริง ๆ ได้ตามหน้าที่ของมันครับ

ส่งท้าย

เรื่องเดียวที่ผมเซ็งนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ คือการต้องใส่ถุงมือยางเพื่อจับเครื่องทดลองเหล่านี้ แต่ก็พอได้ข้อสรุปเบื้องต้นสำหรับการลอง(นิดหน่อย)แล้วเล่า ในครั้งนี้ว่า ในเวลาที่ตัวเลือกราคาย่อมฯ มีให้เลือกหลากหลาย แบบชนิดที่ตลาดดุเดือดไม่แพ้ฝั่งตลาดรุ่นกลางหรือรุ่นท็อป Huawei ทำสินค้าโดยรวมออกมาได้ดีอยู่ เพียงแต่การขาด Google Service อาจทำให้การตัดสินใจซื้อ ต้องชั่งใจถึงการใช้งานของแต่ละบุคคล ว่าชีวิตผู้กับ Google แค่ไหน ถ้าไม่ได้ใช้แผนที่ ดู Youtube แบบประจำจริง ๆ และมองหามือถือหรือแทบเล็ตราคาเบา ๆ ก็เลือก Huawei ทั้งชุดที่ได้ลองไปครั้งนี้อยู่ในตัวเลือกได้

ถ้าทุกเครื่องที่ได้ลองวันนี้ ได้​​​​ Google Service กลับมาอยู่ด้วยกัน ผมจะไม่รู้สึกเสียดายศักยภาพเครื่องที่เป็นอยู่แน่นอน

ขายของส่งท้าย

สำหรับ MatePad กับ MatePad T8 วางจำหน่าย วันที่ 13 มิิถุนายนนี้ ที่ตัวแทนจำหน่าย Huawei ทั่วประเทศ และ JD Central ในสเปกราคาดังนี้

  • Huawei MatePad รุ่น Wi-Fi RAM 4GB ความจุ 64GB ราคา 9,900 บาท (แถม MatePad Cover/Video Benefits/Huawei Cloud/WPS Office ฟรี 3 เดือน รวมมูลค่า 2,260 บาท)
  • Huawei MatePad T8 รุ่น 4G RAM 2GB ความจุ 32GB ราคา 4,690 บาท (แถม microSD 64 GB/Video Benefits/Huawei Cloud/WPS Office ฟรี 3 เดือน รวมมูลค่า 1,600 บาท)
  • Huawei MatePad T8 รุ่น Wi-Fi RAM 2GB ความจุ 16GB ราคา 3,690 บาท (พิเศษเฉพาะที่ JD Central เท่านั้น)

สำหรับ Y6p กับ Y5p จะวางจำหน่าย 29 พฤษภาคมนี้ ที่ Huawei Brand Shop / JD Central และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ในสเปกและราคาดังนี้

  • Huawei Y6p RAM 4GB ความจุ 64GB มีให้เลือกสามสี ได้แก่ Midnight Black / Phantom Purple และ Emerald Green ราคา 3,990 บาท
  • Huawei Y5p RAM 2GB ความจุ 32GB มีให้เลือกสองสี ได้แก่ Midnight Black กับ Mint Green ราคา 2,990 บาท
โดยผู้ที่ซื้อ Y6p นอกจากจะได้รับ Giftbox มูลค่า 900 บาทแล้ว ลูกค้า 5,000 ท่านแรกที่ลงทะเบียนเข้าใช้งาน Huawei Member Center หรือศูนย์สมาชิก Huawei จะยังได้รับสิทธิ์การเป็นสมาชิก VIU Premium สำหรับรับชมซีรีส์เกาหลี หรือละครไทยย้อนหลังแบบความละเอียดสูงบนแอปพลิเคชัน VIU (สามารถดาวน์โหลดได้จาก AppGallery) นาน 1 เดือน ติดตามรายละเอียดการรับสิทธิ์และการลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ที่ Facebook HuaweiMobileTH หรือที่ Line Official Account: Huawei Mobile Thailand

คณะแกดกวน #teamgadguan

ดลกุล เนตรรัตนากุล (zipboy)

ชื่อเต๋า อายุหลัก 3 ชอบของเล่นไฮเทคทั้งหลาย แต่ไม่ค่อยจะได้เล่น ต้องไปยืมชาวบ้านมาลอง เป็นกรรมกรประจำ #TeamGadGuan รักที่จะเขียน และรักคนอ่านครับ^^