ความเดิมตอนที่แล้ว : ลองแล้วเล่า : WD_BLACK Game Drive P50 “เต็มไม่กลัว! กลัว (SSD) จะไม่เต็ม!”
ในลองแล้วเล่าบทที่แล้ว เราได้เกริ่นกันไว้ว่า ด้วยการประกาศรองรับ External HDD ของ PS4 และ Xbox One เมื่อหลายปีก่อน ทำให้เราได้เห็น External HDD สาย Gaming หรือ “Game Drive” บุกตลาดกันมากขึ้น จวบจนมาถึงยุคของ Gen 9 อย่าง PS5 และ Xbox Series X|S การรองรับ External HDD ก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม จุดประสงค์ก็เพื่อเอาไว้เล่นเกมเก่าของ PS4/Xbox One โดยเฉพาะ ด้วยปัญหาที่ว่า SSD ที่ให้มาในเครื่องทั้ง PS5 และ Xbox Series X|S ก็ยังคงไม่เพียงพอต่อการใช้งานอีกเช่นเคย และแถม NVMe SSD ความจุสูงระดับ 1TB ขึ้นไป ก็ยังคงมีราคาแพงระยับในระดับกระเป๋าตังฉีกได้เลยทีเดียว ยิ่งถ้ากรณีของ Xbox Series X|S การขยายความจุทำได้วิธีเดียวคือต้องใช้ Expansion Card ของ Seagate เท่านั้น ไม่สามารถติดตั้ง NVMe SSD ได้เหมือน PS5 ทำให้ไม่มีรายอื่นเข้ามาแข่งขัน และ Seagate สามารถตั้งราคาแพงระยับได้โดยไม่ต้องแคร์ตลาด ดังนั้น External HDD ในแบบ Game Drive ก็ยังคงมีความจำเป็นสำหรับใช้บริหารจัดการพื้นที่ SSD อยู่ดี
วันนี้ Western Digital ที่น่ารักของเรา ส่ง Game Drive รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง WD_Black Game Drive D30 มาให้เราได้ลองแล้วเล่ากันอีกแล้ว จะต่างจากตัว P50 ที่เราเคยเล่าไปก่อนหน้านี้มากน้อยแค่ไหน และจะแรงสู้ตัวเก่าได้หรือไม่ เรื่องราวมันเป็นเช่นนี้~
ส่องรอบ ๆ ตัวคุณเค้าหน่อยสิ๊
เริ่มกันที่ดีไซน์ของคุณเค้ากันก่อน D30 ตัวนี้ ยังคงเป็นการนำเอา NVMe SSD มาพัฒนาเป็น Game Drive เหมือน P50 ไม่ผิดเพี้ยน แต่สิ่งที่สังเกตได้นับตั้งแต่แกะกล่อง นั่นคือรูปลักษณ์และน้ำหนัก “เบาและเล็ก” กว่า P50 ได้อย่างชัดเจน อย่าง P50 นี่เราเคยปรามาสไว้ว่า “ปาใส่หัวมีเลือดอาบ” D30 จะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว
บอดี้ของ D30 ทั้งตัว เป็นโพลีเอสเตอร์น้ำหนักเบา แม้จะหนากว่า P50 แต่บอกเลยว่าไม่ได้ลำบากต่อการพกพาไปไหนมาไหนมากนัก (ในกรณีที่จะนำออกไปใช้งานในฐานะ External HDD) ยังคงสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกเหมือนเคย
D30 ใช้ช่องการเชื่อมต่อแบบ USB-C ตาม SSD หรือฮาร์ดดิสก์รุ่นอื่นของ Western Digital และมีไฟสีขาวแสดงสถานะการทำงานอยู่ด้านซ้าย
อุปกรณ์ในกล่อง ฮัดช่า! ทั้งกล่องมีแค่ สาย USB-C to A 1 เส้น และฐานสำหรับติดตั้งตัว SSD เพื่อวางแนวตั้ง อันนี้บอกเลยว่าเป็นจุดเดียวที่ผิดหวัง แต่ก็ว่าอะไรไม่ได้ เพราะด้วยการรองรับ External HDD ของ PS5 และ Xbox Series X|S ทั้งคู่รองรับ External HDD ด้วยพอร์ต USB-A เท่านั้น และใช่ครับ ต่อให้เป็น PS5 ที่มี USB-C หน้าเครื่อง มันก็ไม่สามารถต่อ External HDD ผ่านพอร์ต USB-C ได้ ต้องต่อผ่าน USB-A อย่างเดียว จึงไม่แปลกใจว่าทำไม Western Digital ถึงให้สายแค่สาย C-to-A เส้นเดียว ไม่ได้ให้ C-to-C และ C-to-A หรือ C-to-C พร้อม A Adaptor เหมือนตัวก่อน ๆ รวมถึง SanDisk Extreme ที่เราเคยเล่นกัน เพราะจุดประสงค์และหน้าที่หลักของมันมีแค่ขยายความจุของเครื่องคอนโซล จึงไม่จำเป็นต้องแคร์อะไรมากมายนัก
เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพโดยชัดเจน ในลองแล้วเล่าครั้งนี้ ขออนุญาตทดสอบ SSD ด้วยสาย USB-C to C 3.1 ของ Verbatim ตลอดบทความนะขอรับ ยกเว้นการต่อเครื่อง PS4 จะยังคงต่อด้วยสาย C-to-A ที่ให้มาเช่นเดิม
เริ่มใช้งาน!
หลังจากดูรอบ ๆ ตัวคุณเค้ากันมาพอสมควรแล้ว ต่อไปก็เป็นการจิ้มเพื่อลองใช้งานเลยก็แล้วกัน
เริ่มที่การใช้งานกับคอมพิวเตอร์กันก่อน ตัว SSD ถูกฟอร์แมตมาเป็น exFAT ตั้งแต่โรงงาน ฉะนั้นการใช้งาน สามารถใช้งานร่วมกับทั้ง Windows และ macOS ได้ตามปกติโดยไม่ต้องฟอร์แมตซ้ำ นั่นคือเสียบปั๊บแล้วเริ่มโอนถ่ายข้อมูลเพื่อเริ่มใช้งานได้เลย แต่ถ้าคุณหวังจะใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ WD Discovery รวมถึงบังคับเปิด UAS แล้วล่ะก็…. บอกเลยว่า “อด” ครับ เพราะ WD Discovery ยังคงมองไม่เห็น D30 เป็นอุปกรณ์ของ WD เหมือนเดิม ทำได้แค่สั่ง Eject ออกมาเท่านั้น
เมื่อทำได้แค่นั้นก็กด Eject ออกมาแล้วกันครับ…
ในส่วนของการใช้งานร่วมกับเกมคอนโซล บอกเลยว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมเป๊ะ! นั่นคือเสียบสายปั๊บ คุณต้องฟอร์แมตเจ้า D30 ให้เป็น Expansion System ของ PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series S|X ก่อน ถึงจะเริ่มใช้งานได้ และสิ่งที่ควรรู้ไว้เลยคือ เมื่อฟอร์แมตเป็น Expansion System แล้ว พื้นที่จะหายไป 100 GB โดยอัตโนมัติ เหมือน P50 เป๊ะ คือใช้ได้แค่ประมาณ 900 กว่า GB (ตัวที่ได้มาทดสอบเป็นตัวความจุ 1 TB) แต่เมื่อฟอร์แมตกลับ ก็จะได้เต็มความจุเหมือนเดิม
การใช้งาน D30 ร่วมกับ PS4, Xbox One เรียกว่าแทบไม่แตกต่างจากคราว P50 มากนัก แต่การใช้งานร่วมกับ PS5, Xbox Series X|S ต้องจำไว้หนึ่งข้อเลยคือ คุณสามารถใช้ D30 ในการจัดเก็บไฟล์เกมและเล่นเกม PS4 หรือ Xbox One บนเครื่องรุ่นใหม่เท่านั้น ไม่สามารถดาวน์โหลดเกม PS5, Xbox Series X|S ลงมาเล่นบน D30 ได้ เนื่องจากเป็นข้อจำกัดของระบบที่ Sony และ Microsoft กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้เสียอรรถรสในการเล่นเกมเท่านั้นเอง
ความเร็วในการใช้งานล่ะ?
บนกล่องจั่วหัวว่าเป็น High-Performance ทั้งที มันก็ต้องจัดหนักจัดเต็มกันหน่อยใช่มั้ยล่ะครับ แต่… เราขอบอกก่อนว่า แม้เจ้า D30 จะเป็น NVMe SSD เหมือนกันกับ P50 แต่… สปีดสูงสุดที่ตัว D30 รองรับ คือ 900 MB/s เท่านั้น จะต่างจากตัว P50 ที่รองรับสปีดสูงถึง 2000 MB/s ฉะนั้นพูดได้ก่อนว่า D30 ถูกออกแบบมาเพื่อที่จับตลาดรองลงมาหน่อย คือต้องการเพื่อเน้นขาย Capacity แต่ไม่ถึงขั้น Hardcore ที่ต้องการสปีดแรง ๆ เพื่อใช้ในการโหลดฉากเร็ว ๆ มากกว่า ซึ่งถ้าต้องการความแรงระดับนั้น Western Digital ก็ยังผลักให้ลูกค้ากลุ่มนี้ไปซื้อ P50 อยู่ดี
เรารู้สปีดหน้ากล่องแล้ว ของจริงนั้นก็เรียกว่าไม่ได้เลวร้ายเท่าใดนัก ด้วยอุปกรณ์ที่ใช้คือ MacBook Pro 2016 (USB-C 3.1) + สาย Verbatim USB 3.1 ผลจาก Benchmark ก็คือ… ความเร็วในการอ่านสูงสุดได้ประมาณ 934.53 MB/s และเขียนสูงสุดที่ 841.86 MB/s เรียกได้ว่าความเร็วประมาณนี้ ไม่มากเท่า P50 แต่ก็ไม่ได้น้อยถึงระดับ External Harddisk ทั่ว ๆ ไป
เมื่อทดสอบกับการอ่านเขียนไฟล์ภาพยนตร์ 4K บอกเลยว่าคุณภาพ SSD แทบไม่หนีไปจาก SanDisk Extreme SSD ที่เราเคยลองแล้วเล่าไป นั่นคืออ่านไฟล์ที่ความเร็ว 12.34 MB/s เมื่อใช้ซีพียูคอร์เดี่ยว 147.67 MB/s เมื่อใช้ซีพียูเต็มกำลัง และมีค่าความหน่วงเวลาที่ 0.201 ms ฉะนั้นแล้ว พูดได้ว่าประสิทธิภาพ D30 กับการใช้งานทั่ว ๆ ไป (ผ่านสาย USB-C ด้วยนะ) สามารถทำได้เต็มที่ ไม่น่าเกลียดแม้แต่น้อย
แต่ในแง่การเล่นเกม เรียกว่า D30 ก็ทำได้ไม่น่าเกลียด แม้จะมีการโหลดที่ช้ากว่า P50 บ้าง แต่เรียกว่าไม่ได้ช้าจนหงุดหงิด อารมณ์ประมาณว่าแทบไม่เห็นความแตกต่างระหว่าง D30 กับ P50 มากนัก อย่าลืมว่าด้วยข้อจำกัดของ USB บนเครื่องคอนโซล ยังถูกจำกัดด้วยเทคโนโลยี USB 3.1 ฉะนั้นต่อให้ SSD มีสปีดที่สูงเอาแบบมาก ๆ อย่าง P50 ก็ยังเจอคอขวดจาก USB 3.1 อยู่ดี ซึ่งแน่นอน ปัญหานี้ D30 ก็เจอเช่นเดียวกัน แต่ด้วยความที่สปีดของ D30 มันไม่ได้แรงมากตั้งแต่เดิม จึงแทบไม่เห็นความแตกต่างในการใช้งานอะไรเลย เหมือนเอามาแค่ขยายความจุเครื่องจริง ๆ แต่ถ้าให้เทียบกับการเล่นเกมบนฮาร์ดดิสก์ 5400 rpm บอกเลยว่ายังไง D30 ที่เป็น SSD ก็ชนะใส ๆ อยู่ดี
สรุป "ไม่มีอะไรดีไปกว่า ... กินจุได้เยอะกว่าเดิม (+เร็วนิดนึง)"
ถ้าถามว่า D30 เหมาะกับใคร ก็คงบอกได้เต็มปากเต็มคำว่า เหมาะกับผู้เล่นเกมคอนโซลทั่ว ๆ ไป อย่างน้อยควรมีติดบ้าน 1 ลูก ต่อ 1 เครื่อง เพราะด้วยความจุที่มีให้มากตั้งแต่ 500 GB ไปจนถึง 2TB บอกเลยว่าจะทำให้ชีวิตการเล่นเกมคอนโซลของคุณดีขึ้นเยอะถึงเยอะมากกกก นั่นคือคุณจะสามารถเก็บเกมโปรดระดับ 100GB ++ ได้ถึง 10 เกม และยิ่งถ้าเป็นสายดองเกม บอกเลยว่า D30 เอาอยู่ และสามารถเก็บเกมได้แบบเหลือ ๆ เลยทีเดียว แต่ว่าถ้าต้องการพื้นที่เยอะและแรงด้วย คงต้องบอกว่า D30 อาจจะไม่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ดีพอ และ P50 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับลูกค้าในกลุ่มนี้ ด้วยสปีดที่ D30 ทำได้ที่ระดับ 900 MB/s ไม่ถึง 2 GB/s ของ P50 พูดตามตรง มันอาจจะตอบสนองต่อกลุ่ม Hardcore Player ได้ไม่ดีเท่าไหร่นั่นเอง
แต่ถ้าตัดเรื่องสปีดออกไป แล้วคิดว่า เอ้ย 900 MB/s ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วแหละ… ก็บอกเลยว่าการเลือก D30 มาเป็นอุปกรณ์เสริม ก็ไม่น่าเกลียด และดูจะดีกว่าการนำเอา External Harddisk ธรรมดามาใช้งานร่วมด้วยซ้ำไป อย่างน้อยคุณจะได้ความสามารถในการโหลดเกมเร็วจากความที่ตัวฮาร์ดดิสก์เป็น NVMe SSD แน่ ๆ แล้วหนึ่งจุด ส่วนเรื่องความจุก็คงขึ้นกับกำลังทรัพย์ของแต่ละบุคคลแล้วล่ะครับ
ว่าแล้วใครที่สนใจ ก็ขอเรียนเชิญไปตำ WD_Black Game Drive ตัวนี้ได้ บอกเลยว่าราคาไม่แพงอย่างที่คิด เพราะคุณเค้ามีค่าตัวเริ่มต้นที่ 3,990 บาท สำหรับความจุ 500 GB สูงสุดที่ 9,990 บาท สำหรับความจุ 2 TB และสำหรับชาว Xbox WD ยังมีตัวเลือก D30 Xbox Game Drive ที่ได้บอดี้รอบตัว+แท่นวางเป็นสีขาว ให้เลือกเพิ่มด้วย สนนเริ่มต้นที่ราคา 3,990 บาทเช่นกัน สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายของ WD ทุกแห่งทั่วประเทศ และที่ Shopee Mall ของ WD เช่นเคย
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทาง Western Digital ที่ให้ยืมคุณเค้ามาลองเล่นด้วยนะครับ ^/\^