ความเดิมตอนที่แล้ว : ลองแล้วเล่า : Sony BRAVIA OLED TV (A1 Series) “จงเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นและหูได้ยิน”
มิถุนายนปีที่แล้ว การเปิดตัว TV OLED รุ่นแรกจาก Sony ในไทย ซึ่งส่งตรงจากงาน CES2017 ในขนาดจอ 55 นิ้ว กับ 65 นิ้ว เป็นประสบการณ์สั้น ๆ ที่ตัวผมกับทีมงานได้เห็น แล้วประทับใจมาก ถึงจะไม่มีโอกาสยกกลับมารีวิวถึงบ้านได้ เพราะด้วยราคาแล้ว คาดว่าทาง PR Sony คงไม่กล้าปล่อยกลับบ้านกันง่ายๆแต่ไม่เป็นไรครับแค่ได้เห็นไม่นานก็รู้สึกได้เลยว่ามันเยี่ยมมาก
ผ่านไป 8 เดือน ความงุนงงก็มาถึงอีกรอบ เพราะ Sony ส่งหมายเชิญไปลองสัมผัส A1 Series มาอีกครั้ง แต่เป็นขนาดหน้าจอ 77 นิ้ว ซึ่ง…คำถามแรกที่เกิดขึ้นคือ 65 นิ้ว ก็ใหญ่แล้วนะ แต่บริษัทระดับนี้ ทำสินค้ามา ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว เหตุผลของ Sony นั้นคือ…
ทำไมต้อง 77 นิ้ว?
ในช่วงสองปีที่ผ่านมาตลาดของ TV ขนาดจอ 44 นิ้วลงไป มีการลดลงอย่างชัดเจน แต่หน้าจอขนาด 55 นิ้วขึ้นไป มีการเติบโตขึ้น และที่เห็นการเติบโตชัดเจนอย่างน่าประหลาดใจ คือหน้าจอที่ใหญ่กว่า 70 นิ้วขึ้นไป ซึ่งเป็นตลาดของคนที่ซื้อไปใช้อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเชิงดูภาพยนตร์ / ใช้งานองค์กร งานเฉพาะทาง ไปจนถึงการเล่นเกม ซึ่งตัวเลือกของตลาดที่ขนาดจอมากกว่า 70 นิ้ว ก็คือซื้อโปรเจคเตอร์มาใช้งานไปเลย แต่ถ้าจะให้ซื้อ Z9D ที่เป็นตัวท็อปของ LED ก็อาจไปไม่สุดในแง่ความสมจริง การรับรู้ผู้บริโภคในตอนนี้ ก็รู้แล้วว่า ถ้าจะเล่นให้สุด ต้องไปที่ OLED จึงทำให้ A1 ขนาด 77 นิ้ว คลอดออกมา
นั่นแปลว่า Sony วางตำแหน่งของ A1 ขนาด 77 นิ้ว ไว้สำหรับลูกค้าที่คิดจะซื้อโปรเจคเตอร์มาทำห้องดูหนัง / บริษัทที่จะทำห้องประชุมขนาดเล็กหรือขนาดกลาง / คนที่อยากเล่น PlayStation 4 แบบจัดเต็ม โดยส่วน A1 อีกสองขนาดที่ขายก่อนหน้าอย่าง 55 นิ้ว กับ 65 นิ้ว จะขายคนที่ใช้งานแบบ TV ทั่วไปมากกว่า
สเปคเดิม เพิ่มเติมขนาดจอ แต่ประสบการณ์นั้น...
ในส่วนสเปคของ A1 ขนาด 77 นิ้ว ยังเป็นสเปคเดียวกับ A1 รุ่นพี่ ทั้งหน้าจอกรอบบางมากแบบ OLED ความละเอียดที่ 3840 x 2160 (4K) ใช้หน่วยประมวลผล X1 Extreme 4K HDR Processor รวมถึงลำโพงแบบ Acoustic Sound ที่ใช้หน้าจอเป็นตัวสั่นสะเทือนให้เสียงออกมา ซึ่งทั้งหมดก็เหมือนกับรุ่นพี่ที่ออกมาก่อนแบบไม่ผิดเพี้ยน
แต่สิ่งที่น่าสนใจของการเป็น TV ขนาด 77 นิ้ว คือการทำให้องค์ประกอบรวม ต้องเหนือกว่าการลงทุนซื้อ Projector+ผ้าใบ+ระบบเสียง ซึ่งทาง Sony นำเสนอประสิทธิภาพของ A1 ขนาด 77 นิ้ว ด้วยการแสดงให้เห็นว่า การชมภาพยนตร์ ให้มิติ สี ความตื้นลึกของภาพ แสง ได้เหนือกว่า Projector แบบ 4K HDR (สาธิตด้วย Projector VPL-VW520ES ของ Sony ในราคาราว ๆ เดียวกับ A1 ขนาด 77 นิ้ว) ถึงจะปรับการฉายของ Projector ให้ลงมาในสเกลที่ 77 นิ้ว เท่ากับขนาด TV แล้วก็ตาม ความสามารถของ OLED ก็ยังกินขาดในเรื่องความลึกของสี ความตื้น ลึก ของมิติภาพ
ในส่วนเล่นเกม PlayStation 4 Pro ผ่านหน้าจอ A1 ขนาด 77 นิ้ว ให้มิติสี ความลื่นไหลของภาพที่สูงกว่า ยิ่งช่วงที่ต้องใช้กราฟฟิคสูง ๆ ในการแสดงผลเกม จะเห็นได้เลยว่า ภาพที่แสดงใน A1 สามารถดึงสีและความลื่นไหลของภาพได้ดีกว่า Projector ในขณะเดียวกัน ถ้าขยายสเกลของ Projector ให้ใหญ่ขึ้นคุณภาพสีของเกมก็จะตกลงตามไปด้วยเช่นกัน
ในส่วนของเสียง อันนี้ยังคงหายห่วง ความดังของลำโพงแบบ Acoustic Sound ที่เคยประทับใจไว้เมื่อเจอกันครั้งแรก ตอนมิถุนายนปีที่แล้ว ยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า นี่คือลำโพงจาก TV ที่น่าประทับใจที่สุดอีกรุ่น ทั้งคุณภาพเสียง ความดัง เอาอยู่แบบไม่ต้องพึ่งลำโพงเสริม หรือ Sound Bar เลยก็ได้
สุดท้ายนี้ ถ้าคิดไม่ออกว่า A1 ขนาด 77 นิ้ว จะใหญ่แค่ไหน ลองเทียบจากภาพหมู่อันนี้ ก็น่าจะได้คำตอบนะครับ เอาเป็นว่า ทำให้ A1 ขนาด 55 นิ้วที่ว่าใหญ่แล้วดูจิ๋วไปเลยครับ
ราคาและการวางจำหน่าย
ราคาจำหน่ายของ A1 ขนาด 77 นิ้วอยู่ที่ 499,990 บาท พูดกลม ๆ ก็คือ ห้าแสนทอนสิบบาท โดยจะเริ่มเปิดให้จองตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ ถึง 11 มีนาคมนี้ ที่ร้าน Sony Store และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และจะได้สิทธิ์ในการเลือกรับของแถมได้สี่แบบ ได้แก่
- ชุดที่ 1 : หูฟังไร้สายรุ่น WH-1000XM2 + PlayStation 4 Pro + เกม GT Sport มูลค่า 32,870 บาท
- ชุดที่ 2 : หูฟังไร้สายรุ่น WH-1000XM2 + Xperia XZ Premium มูลค่า 38,980 บาท
- ชุดที่ 3 : หูฟังไร้สายรุ่น WH-1000XM2 + กล้อง Alpha A6000 มูลค่า 40,980 บาท
- ชุดที่ 4 : TV Bravia LED ขนาด 55 นิ้ว รุ่น KD-55X8000E มูลค่า 34,990 บาท
โดยที่ตัวสินค้าจะเริ่มวางจำหน่ายกลางเดือนมีนาคมนี้ ที่ Sony Store ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายของ Sony ทั่วประเทศ และที่ Sony Online Store
ส่งท้าย
เอาเข้าจริง การเห็น TV ขนาดใหญ่พิเศษแบบนี้ ดูไกลตัวกับผมไปหน่อย ไม่ว่าจะด้วยราคา หรือจุดประสงค์การใข้งาน แต่พอคิดถึงกลุ่มลูกค้าที่ Sony วางไว้กับ A1 ขนาด 77 นิ้ว ถ้าจ่ายเงินแบบครึ่งล้านแล้วจบในเครื่องเดียว ก็เป็นตัวเลือกที่ดูดีมาก แต่ถ้างบประมาณจัดเต็มทั้งระบบอยู่แล้ว การเอาเงินที่จะซื้อ Projector กับผ้าใบและระบบเสียง มาเป็น TV เครื่องนี้เครื่องเดียวก็เป็นประสบการณ์รับชมที่ไม่ผิดหวังแน่นอนเช่นกัน
เพราะที่แน่ ๆ Sony ยังเอยปากเองเลยว่า A1 เป็น TV ที่ประสบความสำเร็จอีกรุ่นของบริษัท และเป็นที่จดจำที่ดีไปเรียบร้อยแล้ว
เหลือแต่ว่า อนาคตกับ A8 เราจะได้เห็นอะไรบ้างนั้น กลางปีนี้กับ Line-up 2018 ก็จะมีคำตอบครับ