
สัมผัสแรก



กล้องถ่ายรูปที่เป็นจุดขายสำคัญของรุ่นนี้เราเรียกมันว่า SuperSensing Camera ความละเอียด 40 ล้านพิกเซลในเลนส์ Wide ถ้าเปิดกล้องมาถ่าย สำหรับ P30 Series สิ่งที่เห็นในหน้าจอ การทำงาน ความเร็วในการตอบสนอง ให้อารมณ์ของ P20 Pro ถ้าให้คำจำกัดความประสิทธิภาพของกล้อง P30 Series ที่เห็นภาพที่สุด คือ P20 ที่แม่นยำขึ้น ทุกการตั้งค่า เล็ง กด ผลงานที่ได้ คือการเอาความประทับใจของ P20 Pro มาทำให้ประทับใจมากขึ้น แม่นยำขึ้น สวยงามขึ้น เหมือนเพื่อนสักคนที่เก่งอะไรสักอย่าง ผ่านไปหนึ่งปี ไปฝึกฝีมือเชิงรายละเอียดให้เก่งขึ้น
จุดขายเรื่องการ Zoom ด้วยเลนส์ Periscope ที่ทำให้ส่องได้ไกลถึง 5X แบบ Optical หรือ 10X แบบ Hybrid และ digital สูงสุด 50X ให้การทำงานที่รวดเร็ว แต่ถ้าจะเอาภาพที่ถ่ายจากการ Zoom เกินกว่า 5X ควรใช้ขาตั้งข่วย และจะให้ได้ภาพที่ชัดขัวร์ ควรกดชัตเตอร์ผ่านรีโมทเท่านั้น เพราะการ Zoom ไกลของ P30 Series ยังสั่นรุนแรงเกินกว่าจะใช้มือถือนิ่ง ๆ ในขณะที่การถ่ายในที่มืด สิ่งที่ได้มากกว่าแค่ถ่ายได้ คือความถูกต้องของสีและรายละเอียดที่มากขึ้น ในเบื้องต้นของการลองกล้องถ่ายรูป P30 Series จึงเปรียบเหมือนคนที่มีฝืมือ แต่ไปซ้อมเพิ่มให้ความเก่งของตัวเองแน่นขึ้นนั่นเอง

“วิธีแปลงความคาดหวัง ให้ออกมาเป็นผลงานที่จับต้องได้”

ตอนมี Huawei P20 Series แล้วรู้สึกว่า เครื่องทำทุกอย่างก้าวกระโดดจากเดิม จัดเต็มจนบางทีก็เป็นภาระของแบรนด์ที่ต้องแบกรับความคาดหวัง ความเปลี่ยนแปลง ในปีหน้า เป็นงานที่ยากของการทำสินค้าที่ของเดิมประสบความสำเร็จมาก่อน ให้สามารถรักษาความสำเร็จเดิม หรือทำให้ได้ดีกว่าเดิม

เอากันจริง ๆ ยังมีความสามารถของ P30 Series หลายจุด ที่ยังไม่ได้เล่าถึง แต่องค์ประกอบเครื่องในสัมผัสแรก เสริมสิ่งที่ดีที่มีแนวโน้มจาก Mate 20 Series ปรุงแต่งด้วยความสามารถของการยกจุดที่แข็งที่สุดของเครื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ละทิ้งการเป็นมือถือรุ่นท็อปที่ดี สิ่งเดียวที่ยังรู้สึกไม่โดนจริง ๆ คงเป็นแค่ EMUI ที่หน้าตา การจัดวาง ยังอยากเห็น Huawei จับยกเครื่องใหม่หมด นอกนั้นแล้ว นี่คือ Mate 20 Pro ฉบับสมบูรณ์แบบมากขึ้น เพิ่มเติมด้วยหน้าตาที่ดูดีขึ้น(มาก)
ด้วยสิ่งที่ตัวเครื่องมอบประสบการณ์ให้ในเบื้องต้น ด้วยโปรโมชั่นเปิดตัวที่ Huawei จัดให้ ถ้าคู่แข่งสายตรงตอนนี้ ที่พึ่งเปิดตัวและขายไป ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างโดยด่วน บอกได้เลยว่า “เหนื่อย”
