ลองแล้วเล่า

ลอง(นิดหน่อย)แล้วเล่า : Huawei P30 Series “ตัวอย่างการเปลี่ยนความกดดัน ให้กลายเป็นก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จ”

ปีที่แล้ว เวลาประมาณเดียวกันนี้….ถ้านึกถึงสภาพของ Huawei ในเวลานั้น ปัญหาดราม่าของรุ่นที่ขายปีที่ผ่านมา การสะดุดความสำเร็จตัวเองจากที่เริ่มเป็นกระแสตัวเอง จนการเปิดตัว Huawei P20 Series เป็นการปลดล็อคความกดดันตัวเอง แล้วสบายใจขึ้น สินค้ารุ่นอื่น ๆ ที่เปิดตัวตามออกมา ได้รับอิทธิพลความสำเร็จจของ P20 Series ไปใช้ในทางตรงและทางอ้อม กระทั้ง Mate 20 Series ก็ได้รับอิทธิพลนี้ จนสามารถยืนด้วยตัวเองแบบไม่ต้องอิงร่มเงา P Series อีกต่อไป ถือเป็นหนึ่งปีที่พลิกสถาณการณ์ให้ทุกอย่างกลับมาจนลืมเรื่องเก่าไปได้เลย
เมื่อ Huawei P20 Series คือผู้ชุบชิวิต และส่งให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในแง่มุมต่าง ๆ ไม่ว่าจะยอดขาย หรือภาพของแบรนด์ ถ้า Huawei P30 Series ต้องแบกรับความคาดหวังไว้มาก การแปลงความคาดหวังให้กลายเป็นความสำเร็จ น่าจะเป็นบทพิสูจน์ของการเป็นแบรนด์ใหญ่ได้ และเท่าที่เห็น จับ ลอง Huawei P30 Series แล้ว ผมว่า มันน่าจะทำได้เกินกว่าแค่ มือถือที่ต้องสานต่อความสำเร็จแล้วแหละ…

สัมผัสแรก

สิ่งแรกที่เห็น “มันสวยมาก” ตอน P20 มันเหมือนสาวที่สวยแค่ข้างหลัง แต่หันหน้ามาแล้ว รีบวิ่งหนีแทบไม่ทัน แต่กับ P30 มันเหมือนน้องสาวของ Mate 20 Pro เพราะมันลดความแข็ง ดูเป็นผู้ชาย ให้ดูอ่อนช้อยมากขึ้น เครื่องให้ความรู้สึกในสัมผัสแรก เครื่องมีความฟิต แน่นกว่า P20 / P20 Pro อย่างเห็นได้ชัด ปุ่ม ช่องไฟต่าง ๆ การกระจายน้ำหนักขณะจับเครื่องในแนวตั้งใช้งานมือเดียว ทุกความรุ้สึก แน่นแบบเดียวกับที่ Mate 20 Pro เคยมอบความประทับใจในเรื่องนี้ ในขณะที่หน้าจอแบบ Edge ของ P30 Pro ยังเป็นหน้าจอ Edge ที่ให้ความรู้สึกเหมือน Mate 20 Pro จับได้ ใช้ได้ดี ไม่เกิดอาการอุ้งมือด้านในแตะจอโดยไม่ตั้งใจ จนไม่แน่ใจว่า ต้นฉบับจอ Edge จากเกาหลี ออกมาก็หลายรุ่น แต่ไม่สามารถจัดการเรื่องกายภาพได้ดีเท่า Huawei ทั้งนี้ ไม่ว่าจะ P30 / P30 Pro บอดี้ของเครื่อง มีการทำสันเครื่องแบบสีด้าน ส่วนด้านหลังเป็นผิวกระจกที่ทำฟิล์มแบบชั้นสีใต้กระจกซ้ำอีกที น่าเสียดายมาก ที่สีส้มไม่ได้มาขายในการเปิดตัว จะตามมาใน Q2 ส่วนสีขาว ไม่นำมาจำหน่าย สีขาวสงวนไว้กับ P30 Lite (Nova 4e ในตลาดประเทศจีน)
หน้าจอของ P30 / P30 Pro เป็น OLED ทั้งคู่ (6.1 นิ้ว / 6.47 นิ้ว) ดูจากสเปก เหมือนไม่ได้ห่างมาก แต่พอเครื่องอยู่ในมือจริง ๆ ความเต็มตามันต่างกัน แต่ความสวย มุมมองต่าง ๆ ไม่ต่างกันเลย เลือกรุ่นไหน ก็ไม่ได้จอที่ต่างหรือแยกชนชั้นกันแน่นอน ถ้าเทียบกับ ส่วน EMUI 9.1 ของ P30 Series นั้น มีการปรับสีสัน รายละเอียดไอค่อน สดใหม่ขึ้นจา Mate 20 Series แต่งานออกแบบ การจัดวาง ความน่าใช้ยังคงเป็นจุดที่ควรรื้อทิ้ง ทำใหม่แบบจริงจัง ในขณะที่ P30 / P30 Pro ใช้ตัวอ่านลายนิ้วมือแบบฉายแสงจากใต้จอ ซึ่งการทำงานของส่วนนี้ สามารถอ่านได้ แม่น ไว ถูกต้องมากขึ้น โดยตอน Mate 20 Pro การอ่านลายนิ้วมือ ทำได้แม่น แต่การทำงานมันช้าไปหน่อยเท่านั้น และยิ่งถ้าเทียบกับมือถือรุ่นล่าสุด ที่อ่านลายนิ้วมือด้วยคลื่นเสียง P30 / P30 Series ชนะเรื่องนี้แบบไม่ต้องเทียบกันเลย

กล้องถ่ายรูปที่เป็นจุดขายสำคัญของรุ่นนี้เราเรียกมันว่า SuperSensing Camera ความละเอียด 40 ล้านพิกเซลในเลนส์ Wide ถ้าเปิดกล้องมาถ่าย สำหรับ P30 Series สิ่งที่เห็นในหน้าจอ การทำงาน ความเร็วในการตอบสนอง ให้อารมณ์ของ P20 Pro ถ้าให้คำจำกัดความประสิทธิภาพของกล้อง P30 Series ที่เห็นภาพที่สุด คือ P20 ที่แม่นยำขึ้น ทุกการตั้งค่า เล็ง กด ผลงานที่ได้ คือการเอาความประทับใจของ P20 Pro มาทำให้ประทับใจมากขึ้น แม่นยำขึ้น สวยงามขึ้น เหมือนเพื่อนสักคนที่เก่งอะไรสักอย่าง ผ่านไปหนึ่งปี ไปฝึกฝีมือเชิงรายละเอียดให้เก่งขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายในที่มืด ซึ่งเป็นจุดขายหลักของ P30 Series

จุดขายเรื่องการ Zoom ด้วยเลนส์ Periscope ที่ทำให้ส่องได้ไกลถึง 5X แบบ Optical หรือ 10X แบบ Hybrid และ digital สูงสุด 50X ให้การทำงานที่รวดเร็ว แต่ถ้าจะเอาภาพที่ถ่ายจากการ Zoom เกินกว่า 5X ควรใช้ขาตั้งข่วย และจะให้ได้ภาพที่ชัดขัวร์ ควรกดชัตเตอร์ผ่านรีโมทเท่านั้น เพราะการ Zoom ไกลของ P30 Series ยังสั่นรุนแรงเกินกว่าจะใช้มือถือนิ่ง ๆ ในขณะที่การถ่ายในที่มืด สิ่งที่ได้มากกว่าแค่ถ่ายได้ คือความถูกต้องของสีและรายละเอียดที่มากขึ้น ในเบื้องต้นของการลองกล้องถ่ายรูป P30 Series จึงเปรียบเหมือนคนที่มีฝืมือ แต่ไปซ้อมเพิ่มให้ความเก่งของตัวเองแน่นขึ้นนั่นเอง

ตัวอย่างเคสจาก Halessi ที่แปลงให้ P30 รองรับ Wireless Charging
ท้ายสุด เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ขอเล่าจริง ๆ คือรอบนี้ Huawei ทำอุปกรณ์เสริมประเภทเคสออกมามากขึ้น สวยขึ้น ตัวอย่างเช่นเคสลายเคฟล่าของ P30 Pro ที่ดูสวยมาก บางกำลังดี ใส่แล้วน่าใช้ ถูกใจฝั่งผู้ชายแน่นอน ในขณะที่เคสซิลิโคน ก็มีสีสดใสให้เลือกมากขึ้น หรือกับ P30 กับเคสรองรับชาร์จไร้สาย ที่ไม่ทำมาหนา หนัก แถมมีลวดลายที่ดูดีเหมือนเคสสวย ๆ ถือเป็นพัฒนาการจุดหนึ่งที่น่าเล่าให้ฟัง และถ้าใครเคยใช้ Huawei มา จะรู้ว่า เคสของแบรนด์นี้ ราคาไม่แรงเลย ขออย่างเดียวคือ ช่วยวางขายพร้อมเครื่องให้ครบทุกสี ทุกแบบ ทุกลายด้วยนะครับ

“วิธีแปลงความคาดหวัง ให้ออกมาเป็นผลงานที่จับต้องได้”

ตอนมี Huawei P20 Series แล้วรู้สึกว่า เครื่องทำทุกอย่างก้าวกระโดดจากเดิม จัดเต็มจนบางทีก็เป็นภาระของแบรนด์ที่ต้องแบกรับความคาดหวัง ความเปลี่ยนแปลง ในปีหน้า เป็นงานที่ยากของการทำสินค้าที่ของเดิมประสบความสำเร็จมาก่อน ให้สามารถรักษาความสำเร็จเดิม หรือทำให้ได้ดีกว่าเดิม

เอากันจริง ๆ ยังมีความสามารถของ P30 Series หลายจุด ที่ยังไม่ได้เล่าถึง แต่องค์ประกอบเครื่องในสัมผัสแรก เสริมสิ่งที่ดีที่มีแนวโน้มจาก Mate 20 Series ปรุงแต่งด้วยความสามารถของการยกจุดที่แข็งที่สุดของเครื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ละทิ้งการเป็นมือถือรุ่นท็อปที่ดี สิ่งเดียวที่ยังรู้สึกไม่โดนจริง ๆ คงเป็นแค่ EMUI ที่หน้าตา การจัดวาง ยังอยากเห็น Huawei จับยกเครื่องใหม่หมด นอกนั้นแล้ว นี่คือ Mate 20 Pro ฉบับสมบูรณ์แบบมากขึ้น เพิ่มเติมด้วยหน้าตาที่ดูดีขึ้น(มาก)

ด้วยสิ่งที่ตัวเครื่องมอบประสบการณ์ให้ในเบื้องต้น ด้วยโปรโมชั่นเปิดตัวที่ Huawei จัดให้ ถ้าคู่แข่งสายตรงตอนนี้ ที่พึ่งเปิดตัวและขายไป ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างโดยด่วน บอกได้เลยว่า “เหนื่อย”

คณะแกดกวน #teamgadguan

ดลกุล เนตรรัตนากุล (zipboy)

ชื่อเต๋า อายุหลัก 3 ชอบของเล่นไฮเทคทั้งหลาย แต่ไม่ค่อยจะได้เล่น ต้องไปยืมชาวบ้านมาลอง เป็นกรรมกรประจำ #TeamGadGuan รักที่จะเขียน และรักคนอ่านครับ^^